วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

วันนี้เอาง่ายๆนะคร่าา

      สูตรขนมหวานไทย : ลูกชุบ

     
เครื่องปรุง + ส่วนผสม

 
ขนมหวานไทย : ลูกชุบ
* ถั่วเขียว 450 กรัม
* น้ำตาลทราย 200 กรัม (สำหรับผสมถั่ว)
* น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับทำน้ำวุ้น)
* น้ำกะทิ 400 กรัม
* วุ้นผง 3 ช้อนโต๊ะ
* น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง (สำหรับทำน้ำวุ้น)
* สีผสมอาหาร
   (อย่างน้อยแม่สี 3 สี : สีแดง, สีเหลืองและน้ำเงิน),
   จานสีและพู่กัน
* ไม้จิ้มฟัน
   (สำหรับเสียบถั่วที่ปั้นแล้วเพื่อแต่งสีและจิ้มลงในน้ำวุ้น)
* โฟม
  (สำหรับเสียบถั่วปั้นระหว่างทำ ถ้าวางบนพื้นจะเสียทรง)
ขนมหวานไทย : ลูกชุบ
ขนมหวานไทย : ลูกชุบ (Green Peanut in Jelly)
 
      วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน
1. นำถั่วเขียวเลาะเปลือกมาทำความสะอาด และแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นจึงนำไปนึ่งให้สุก ใช้เวลาประมาณ 15 นาที)
2. เมื่อถั่วเขียวสุกดีแล้ว ให้นำไปใส่ในเครื่องปั่นไฟฟ้า พร้อมกับน้ำตาลทรายและน้ำกะทิ ปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี
3. จากนั้นจึงเทส่วนผสมลงในกระทะทองเหลือง (หรือกระทะเคลือบเทฟลอนก็ได้)และตั้งบนไฟอ่อนๆ ค่อยๆกวนจนข้นและเหนียว (ใช้เวลาประมาณ 20 - 30 นาที) จึงปิดไฟ และทิ้งไว้ให้เย็น (ถั่วต้องแห้ง มิเช่นนั้นจะไม่สามารถนำไปปั้นได้)
 
4. ก่อนปั้นให้นวดส่วนผสมทั้งหมดอีกครั้งจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นจึงปั้นให้เป็นรูปทรงตามใจชอบ (ผัก, ผลไม้หรือสัตว์น่ารักๆ) เมื่อปั้นเสร็จให้เสียบไม้จิ้มฟันรอไว้ ควรปั้นส่วนผสมทั้งหมดให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ถั่วที่ปั้นเสร็จแล้วควรห่อไว้ด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำหมาดๆ
5. ผสมสีผสมอาหารตามต้องการ แล้วจึงบรรจงแต่งสีลงบนถั่วปั้นให้เหมือนจริง หรือตามแต่ความชอบ
6. ทำน้ำวุ้นโดยผสมน้ำเปล่า, ผงวุ้นและน้ำตาล ลงในหม้อ นำไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง หมั่นคนอย่างสม่ำเสมอ รอจนส่วนผสมเดือด ช้อนฟองที่ลอยหน้าออก จึงหรี่ไฟลง
7. นำถั่วปั้นที่แต่งสีแล้วไปชุบในน้ำวุ้น ควรชุบประมาณ 2 - 3 ครั้ง ระหว่างชุบวุ้นต้องอุ่นน้ำวุ้นด้วยไฟอ่อนเพื่อไม่ให้วุ้นแข็ง ถ้าไม่พอก็ผสมน้ำวุ้นขึ้นใหม่ตามอัตราส่วนข้างต้น
8. นำลูกชุบออกจากไม้ิจิ้มฟัน ตัดแต่งเศษวุ้นส่วนเกินออกด้วยกรรไกร จัดใส่จาน เสริฟเป็นของว่างในวันสบายๆได้ทันที

วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ขนมวุ้นกรอบ

       ขนมวุ้นกรอบ

     เครื่องปรุง + ส่วนผสม

ขนมหวานไทย : ขนมวุ้นกรอบขนมหวานไทย : ขนมวุ้นกรอบ
 





* ผงวุ้น 2 ช้อนโต๊ะ

* น้ำตาลทราย 400 กรัม

* น้ำสะอาด 250 กรัม

* กลิ่นมะลิ 2 ช้อนชา

* สีผสมอาหารสีต่างๆ

 
      วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน
1. นำผงวุ้นไปละลายในน้ำ และใส่น้ำตาลทราย พักไว้ประมาณ 15 นาที
2. นำส่วนผสมในข้อที่หนึ่งไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง คนต่อเนื่องจนส่วนผสมทุกอย่างละลายดี จึงปิดไฟ ยกลง
3. เติมกลิ่นมะลิ และสีผสมอาหารที่ต้องการ เสร็จแล้วจึงเทใส่ภาชนะ และทิ้งไว้ให้เย็นและแข็งตัว
 
4. เมื่อวุ้นแข็งตัวดีแล้ว นำมาตัดเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า หรือขนาดตามต้องการจนหมด
5. นำวุ้นที่ตัดเป็นชิ้นๆแล้ว นำไปผึ่งลมให้ตกผลึก โดยหมั่นกลับวุ้นไปมาให้ตกผลึกทุกด้าน (ไม่ควรนำไปตากแดด เพราะจะทำให้สีซีด ไม่น่ารับประทาน)
6. นำวุ้นที่แห้งและตกผลึกดีแล้ว ใส่จานเสริฟเป็นของว่างทานเล่น หรือใส่โหลภาชนะมิดชิด เพื่อเก็บไว้ทานภายหลัง

วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ขนมทอง ของไทย

    ขนมทองหยิบ

     เครื่องปรุง + ส่วนผสม
 


* ไข่เป็ด 8 ฟอง (ใช้เฉพาะไข่แดง)
* น้ำเปล่า 6 ถ้วยตวง
* น้ำตาลทราย 3 ถ้วยตวง
   (เคล็ดลับ : อัตราส่วนมาตรฐานทั่วไป
   น้ำ 1 ส่วน : น้ำตาล 1/2 ส่วน)




ขนมหวานไทย : ขนมทองหยิบ
ขนมหวานไทย : ขนมทองหยิบ


   วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน
1. ผสมน้ำเปล่าและน้ำตาลทรายลงในกระทะทองเหลือง นำไปตั้งบนไฟอ่อนจนละลายปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็นนำไปกรองด้วย ผ้าขาวบางหนึ่งครั้ง
2. นำน้ำเชื่อมที่กรองแล้วไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง กะพอให้น้ำเชื่อมร้อนจัดแต่ไม่ให้เดือดพล่าน
 
3. ใส่ไข่แดงลงในถ้วย ตีจนขึ้นฟู เมื่อน้ำเชื่อมร้อนได้ที่ ใช้ช้อนตักไข่แดงที่ตีจนฟู หยอดลงในน้ำเชื่อม ไข่จะแผ่เป็นวงกลม ใช้ช้อนกลับหน้าสักครั้งเพื่อให้สุกทั่วทั้งสองด้าน จากนั้นจึงตักขึ้น
4. รอจนหายร้อน จึงจับจีบโดยใช้นิ้วมือหยิบ 5 หยิบแล้วใส่ลงในถ้วยตะไลหรือแบบพิมพ์ที่เตรียมไว้

วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ไข่เต่า

ขนมปลากริมไข่เต่า

ขนมปลากริมไข่เต่านี้เป็นขนมไทยโบราณ เดิมเรียกว่า ขนมแชงมา และขนมจะแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ ส่วนเค็มและส่วนหวาน ซึ่งเรียกว่า ตัวขนมและหน้าขนม

ส่วนผสมแป้ง
แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
แป้งท้าวยายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง

ส่วนผสมแป้งนวล
แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมตัวขนม
หางกะทิ 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลมะพร้าว ½ ถ้วยตวง
แป้งท้าวยายม่อม 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำสำหรับละลายแป้ง ¼ ถ้วยตวง
ใบเตยตัดท่อนยาว 3 นิ้ว 2 ใบ

วิธีทำ
1. ผสมแป้งนวลในถ้วยพักไว้ สำหรับเวลาปั้นไม่ให้แป้งติดมือ
2. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งท้าว แป้งมัน ลงในกระทะทอง ค่อยๆ ใส่น้ำทีละน้อย จนหมดคนให้ส่วนผสมเข้ากัน
3. นำไปตั้งไฟกวนด้วยไฟกลางค่อนข้างอ่อน จนแป้งเป็นก้อน เอาใส่ในถาดที่โรยแป้งนวล (เคล็ดลับ การกวนแป้งอย่าให้สุกมาก แป้งจะแข็งนวดยาก ต้องกวนให้มีความดิบอยู่บ้าง ประมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์ แป้งจะสวย)
4. พอแป้งอุ่นนวดให้เนียน ถ้าแป้งติดมือหรือติดภาชนะให้ใช้แป้งนวลโรย
5. ปั้นแป้งเป็นตัวยาวๆ หัวรีท้ายรี ขนาดเล็กๆ ซึ่งครึ่งหนึ่งใช้ทำตัวขนม อีกครึ่งปั้นเป็นก้อนกลมเล็กน้อยคล้ายไข่เต่า สำหรับทำหน้าขนม

วิธีทำตัวขนม
1. นำหางกะทิ น้ำตาลมะพร้าว ใบเตยใส่หม้อ ตั้งไฟพอเดือด
2. ขณะที่หางกะทิเดือด ค่อยๆ เทแป้งท้าวยายม่อมละลายน้ำลงไป
3. ใส่ตัวแป้งที่ลวงแล้วลงไป คนให้เข้ากัน ยกลงพักไว้

วิธีทำหน้าขนม
1. นำหัวกะทิ เกลือ ใบเตย ใส่หม้อตั้งไฟ ให้เดือด
2. ใส่ตัวแป้งที่ลวกแล้วอีกส่วนหนึ่งลงไปคนให้เข้ากัน พอเดือดยกลง เมื่อจะเสิร์ฟ ตักขนมทั้ง 2 ชนิด ใส่ในถ้วยเดียวกัน  ถ้าคนรับประทานชอบหวาน ให้ใส่ตัวขนมมากๆ ถ้าชอบเค็มใส่หน้ามากๆ



วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ขนมชักหน้า (ขนมน้ำดอกไม้)

     ขนมน้ำดอกไม้

     เครื่องปรุง + ส่วนผสม


ขนมหวานไทย : ขนมน้ำดอกไม้

* แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
* แป้งเท้ายายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำลอยดอกมะลิ 2 1/2 ถ้วยตวง
* น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วยตวง
* สีผสมอาหาร (ตามความชอบ)


ขนมหวานไทย : ขนมน้ำดอกไม้
ขนมหวานไทย : ขนมน้ำดอกไม้

 
      วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน
1. ผสมแป้งข้าวเจ้าและแป้งเท้ายายม่อม จากนั้นนำไปร่อนและพักทิ้งไว้
2. นำน้ำลอยดอกมะลิและน้ำตาลทรายไปตั้งในหม้อบนไฟอ่อนๆ คนจนผสมกันทั่วและน้ำตาลละลายดีจึงปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็น
 
3. นำน้ำเชื่อมและแป้งผสมกันทีละน้อย คนจนส่วนผสมเข้ากันดี จึงใส่สีผสมอาหารลงไป ควรผสมให้เป็นสีโทนอ่อนจะน่าร้บประทานมากกว่าสีเข้ม 
4. นำแบบพิมพ์ที่ต้องการไปนึ่งให้ร้อนประมาณ 10 นาที จากนั้นจึงหยอดน้ำแป้งลงในแบบพิมพ์ที่ต้องการ แล้วนำไปนึ่งประมาณ 15
นาทีจนสุก ทิ้งไว้ให้เย็น แคะออกจากแบบ จัดใส่จานเสริฟ